วันเสาร์ที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2554

เรื่องเล่าจากหัวใจ 3

นับจากวันแรกที่ได้คุย ได้พบกัน จนถึงตอนนี้ ก็ปีนิดๆแล้ว

เขายังคงเป็นเขา อย่างไรก็อย่างนั้น

ส่วนตัวฉัน ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน ว่าทำไมถึงชอบหงุดหงิด ชอบขัดอกขัดใจกับสิ่งที่เขาทำ

มันเหมือนกับ เขาทำอะไรก็ไม่ถูกใจซักอย่าง ทั้งที่เมื่อก่อน เราเข้ากันได้ดี

เราคุยกันน้อยลง อยู่ด้วยกันน้อยลง ทั้งๆที่ฉันเคยคิดว่า ตอนนี้เราย้ายมาอยู่ใกล้ที่ทำงานของเขาแล้ว และคอนโดที่เขาเคยอยู่ ก็ใกล้กับอพาร์ทเมนท์ที่ฉันอยู่ แต่กลับกลายเป็นว่า เขาเริ่มอยู่กับตัวเองมากขึ้น และอยู่กับฉันน้อยลง

หรือเป็นเพราะฉันเอาแต่ใจ และเห็นแก่ตัวแบบงี่เง่า ฉันเลยอยากให้เขาอยู่ใกล้ๆ ตลอดเวลา ทั้งที่ฉัน ไม่เคยพยายามเอาตัวไปใกล้เขาเลย

ฉันไม่ชอบ เวลาที่เขาไปไหนกับคนอื่น ที่เขาเรียกว่า "เพื่อน"

ฉันไม่ชอบ เวลาที่เขาคุยกับคนอื่น ที่เขาเรียกว่า "เพื่อน"

ฉันเป็นคนขี้หวงและขี้หึง แต่ฉันก็ไม่อยากทำให้เขา ต้องเสียเพื่อน ซึ่งเขาเอง ก็เลิกคบเพื่อนไม่ได้ ฉันจึงเป็นฝ่ายต้องเอาตัวเองออกมา

ฉันกลายเป็นคนที่อยู่ใกล้ แต่แทบไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเขา เพราะฉันพยายามปิดหูปิดตาตัวเอง ไม่รับรู้อะไรทั้งสิ้น

เวลาเขาไปไหน ชวนไปไหนด้วย ฉันก็ไม่ไป ฉันโกรธที่เวลาฉันอยากไปไหนแล้วเขาชอบพูดว่า เขาไม่มีตังค์ ฉันเลยทำแบบนั้นบ้าง แต่กลายเป็นว่า ฉันไม่มีตังค์ที่จะไปไหนได้จริงๆ ในขณะที่เขา ได้ไปเที่ยวที่โน่นที่นี่กับเพื่อนของเขา

การทำแบบนี้ จะทำให้เขาออกห่างไปจากฉันไหมนะ ถ้าเขามีคนใหม่ ฉันจะรู้ไหมนะ หรือฉันจะกลายเป็นตัวโง่งมเหมือนครั้งก่อนอีก

ฉันอยากจะไว้ใจเขา อยากจะเชื่อเขา ว่าเขาจะไม่หักหลัง ไม่ทรยศ ไม่หลอกลวง

แต่...ฉันไม่สบายใจเลย

ฉันควรจะทำอย่างไรดีนะ เขาไม่ได้เปลี่ยนแปลง แต่เป็นตัวฉันเองหรือเปล่า ที่เปลี่ยนไป ???

วันพฤหัสบดีที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

เรื่องเล่าจากหัวใจ 2

ฉันมีความสุขกับความสัมพันธ์ของเราที่ ไม่รีบร้อน ไม่เร่งรัด และไม่คาดหวัง

ฉันไม่คาดหวังว่า เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป และเขาก็ไม่คาดหวังให้เป็นเช่นนั้นด้วยเหมือนกัน

ความสัมพันธ์ของเราดำเนินไปแบบไม่จริงจัง จนบางคนสงสัยว่า พวกเราอยุ่กันในฐานะอะไร

สำหรับฉัน เขาคือคนที่มาแต่งแต้มสีสันให้ชีวิต เมื่อก่อนที่จะพบเขา ฉันอยู่คนเดียวได้มาปีกว่า คงไม่ผิดถ้าบอกว่า เขาเข้ามาเป็นแรงบันดาลใจ เป็นกำลังใจ เป็นเสียงหัวเราะ

ส่วนสำหรับเขา ฉันไม่รู้หรอก ว่าฉันเป็นอะไร และไม่อยากรู้ เขาไม่ได้ขอให้ฉันเปลี่ยนแปลงตัวเอง แต่โดยไม่รู้ตัว บางสิ่งบางอย่างของฉันได้เปลี่ยนไป เพื่อตอบแทนความมีน้ำใจ และความเอาใจใส่ของเขา

ฉันไม่รู้ ว่าทุกวันนี้ ความรู้สึกระหว่างเรา เรียกว่าความรักได้หรือไม่ บางทีเราอยู่กันเหมือนคนรัก แต่บางทีเหมือนเป็นเืพื่อนสนิทมากกว่า

เขายังคงคิดถึงคนเก่า ยังคงเจ็บปวด เสียใจกับความทรงจำเก่าๆ ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติ เพราะผู้หญิงคนนั้น คือคนที่เขาวาดหวังว่าจะแต่งงานด้วย อาจไม่ใช่รักแรก แต่คงเป็นคนที่รักมาก

แต่ฉันอยากจะเชื่อ ว่าความรู้สึกดีๆ ที่เขามีให้ฉัน ไม่ใช่สิ่งหลอกลวง เขาไม่ได้หลอกใช้ฉันเพื่อจะลืมคนเก่า และฉันไม่เคยต้องการให้เขาลืมใคร

ฉันไม่คิดว่า ความรู้สึกดีๆที่เรามีให้กัน ซักวันจะแปรเปลี่ยนเป็นความรัก เป็นความต้องการที่จะอยุ่ร่วมกันตลอดไป ฉันอยากให้เราอยู่ด้วยกันไปเรื่อยๆ อย่างนี้ก็เพียงพอ

ฉันไม่ปฏิเสธ ว่าฉันมีความต้องการที่จะอยุ่กับเขาตลอดไปในบางครั้ง ก็เป็นธรรมดาของหญิงสาวที่มีคนสำคัญอยู่ใกล้ตัวไม่ใช่หรือ แต่ฉันพยายามเก็บความคิดนั้นไว้ ไม่อยากใส่ใจจริงจัง เพราะเขาคงไม่ใช่คนสุดท้ายของชีวิตฉัน เหมือนกับฉันก็จะไม่ได้เป็นคนสุดท้ายในชีวิตของเขาด้วย

ไม่ใช่ว่าเราไม่จริงใจต่อกัน ฉันให้เขาไปหมดทั้งใจ แต่แปลกมั้ย ที่ฉันไม่เสียใจเมื่อเขาบอกว่า เขายังรักคนเก่า ไม่ได้พยายามรั้งเขาไว้ให้อยู่กับตัว และไม่บอกให้เขาเลิกคิดแล้วหันมาสนใจฉันคนเดียว

ฉันไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน ว่าทำไมถึงไม่เสียใจ ไม่เจ็บปวดบ้าง ฉันรู้แค่ว่า ตอนที่เห็นเขาเสียใจ เห็นเขาเศร้าซึม ฉันไม่อยากเอาอารมณ์ของตัวเอง ไปผลักไสไล่ส่งเขา ทำให้เขารู้สึกแย่กว่าเดิม หรือว่าฉันเจ็บปวดเหมือนกัน เพียงแต่ไม่อยากเพิ่มภาระให้เขา

ใครๆ อาจคิดว่า เขาเห็นฉันเป็นตัวสำรอง และในบางที ฉันก็ทำตัวเป็นเหมือนตัวเลือกสำหรับเขาด้วย ไม่ใช่ว่าฉันไม่รักตัวเอง ไม่ใช่ว่าฉันไม่มีศักดิ์ศรี แต่ทำไม ฉันก็บอกไม่ได้

ความคิดของเขา คนที่รู้ดีที่สุดก็คือเขา ความรู้สึกของฉัน ฉันรู้ดีที่สุดว่า ฉันไม่ได้เป็นตัวเลือก และไม่ได้สูญเสียอะไรไปเลย

ฉันไม่ขอให้เขารักฉันมากขึ้น และไม่กลัวถ้าเขาจะรักฉันน้อยลง ความรู้สึกของเราสองคน อยู่ในจุดที่สมดุลกันตั้งแต่วันแรก จนถึงวันนี้ เขาคือคนที่พอดีสำหรับฉัน ส่วนฉันจะเป็นอะไรสำหรับเขาก็แล้วแต่ แต่ถ้าเขายังสมัครใจที่จะจับมือฉันไว้ ฉันก็จะไม่ปล่อยมือเขา

วันจันทร์ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2553

เรื่องเล่าจากหัวใจ

ถ้าวันนึง คุณได้พบกับ "เพื่อน"เก่า คุณคิดว่าอะไรจะเกิดขึ้น


ฉันมีเรื่องเล่าเรื่องหนึ่ง จะเล่าให้คุณฟังนะ


ในวันที่ฉันอยู่อย่างเหงาๆ เซ็งๆ ได้ปีเศษ วันนึง ฉันได้เจอเพื่อนเก่าตั้งแต่สมัย อนุบาล ประถม มัธยม หลายต่อหลายคนบนโลกแห่งสังคมออนไลน์


ฉันไม่เคยคาดคิด ว่าสังคมนี้ จะย่อโลกของฉันให้เล็กลงมาขนาดนี้


ฉันได้พบพวกเขา พวกเธอที่ไม่ได้เจอกันนาน บางคนเกือบสิบปี ฉันจำพวกเขาไม่ได้ ถ้าไม่เห็นชื่อพวกเขา เราจะเป็นคนที่ไม่รุ้จักกัน ถ้าเราเจอกันตามท้องถนน


มันเป็นความประทับใจ ที่ฉันได้เจอพวกเขาอีก โดยผ่านสังคมออนไลน์นี้


และฉันก็ได้เจอ "เขา" คนที่เคยแกล้งกันมา ไล่ตีกันมา ตั้งแต่เด็ก


ฉันจำไม่ได้หรอก ว่าตอนเด็ก เราแกล้งกันยังไง เราทะเลาะกันด้วยเรื่องอะไรบ้าง แหม มันก็เกือบสิบปีแล้วนะ นานมากแล้ว


จนถึงตอนที่เราได้เจอกันอีก ฉันกับเขา ก็ยังไม่เลิกเป็นคู่กัด เป็น "เพื่อน" ที่คิดว่า จะอยู่เป็นโสดด้วยกันต่อไป


ฉันเชื่อเรื่องพรหมลิขิตนะ แต่ในตอนนั้น ฉันไม่คิดว่า เขากับฉันจะกลายเป็นอย่างอื่นนอกจาก "เพื่อน" กัน


ฉันคุยกับเขา ทะเลาะกับเขา ต่อล้อต่อเถียงกัน จนเมื่อไหร่ก็ไม่รุ้ ที่กลายเป็นว่า ฉันชอบที่จะได้คุยกับเขา มันสนุกมากเลยนะ เวลาที่เถียงกัน แล้วฉันชนะ ฉันก็เลย ตั้งหน้าตั้งตา เถียงกัน ตั้งหน้าตั้งตา รอที่จะได้คุยกับเขา


ฉันได้รู้ว่า เราสองคน มีอะไรที่เหมือนกันหลายอย่าง


ฉันพยายามที่จะหยุดแค่คำว่า "เพื่อน" เพราะฉันไม่อยากเสีย "เพื่อน"ที่แสนดีคนนี้ไป


ฉันไม่รู้ว่าเขาคิดยังไง ไม่เคยแน่ใจ ฉันอ่านเขาไม่ออก และพยายามคิดว่า เขาก็คิดเหมือนฉัน ที่ไม่ว่ายังไงก็คือ "เพื่อน"


ในช่วงที่ฉันกำลังสับสนอะไรหลายๆ อย่าง เขาคือคนที่คอยให้กำลังใจ และบอกว่า ไม่เป็นไรนะ เดี๋ยวก็ดีขึ้นเอง


บางทีการกระทำเหล่านี้ คำพูดที่ออกมากับน้ำเสียงนุ่มๆ คือสิ่งที่เขาทำกับคนอื่นทั่วไป จนถึงเดี๋ยวนี้ ฉันก็ยังเชื่ออย่างนั้น


จนถึงวันนึง ที่เราเจอกัน ฉันก็ยังไม่คิดว่า ระหว่างเรา มีความสัมพันธ์แบบอื่น แทรกเข้ามา ยังพยายามคิดว่า การที่เขาจับมือฉัน ก็คือสิ่งที่เขาทำกับเพื่อนผู้หญิง คนอื่นๆด้วยเช่นกัน


ฉันอยากจับมือเขานะ มือคู่นั้น ดูนุ่ม น่าจับมากเลย ฉันอยากลองจับดู อยากรู้ว่าจะนุ่มขนาดไหน และมือคู่นั้น ก็เป็นความประทับใจอีกอย่างนึง ที่ฉันมีให้กับผู้ชายคนนี้ 


ฉันไม่รู้ว่า ความรู้สึกตอนนั้น ฉันชอบเขาหรือยัง รู้แค่ว่า อยู่ใกล้แล้ว มีความสุข รู้แค่ว่า เขาเป็นคนที่พอดีกับฉัน


จนถึงตอนนั้น ฉันก็ยังพยายามบอกตัวเองว่า "เพื่อน" นะ อย่ามากไปกว่านั้น


แต่เชื่อมั้ย มือเขา ที่จับมือฉันทั้งวัน ไหล่เขาที่ฉันได้ซบ กับวงแขนของเขาที่โอบไหล่ฉัน มันละลายคำว่า "เพื่อน" ออกไปจากใจฉัน จนหมดสิ้น


ฉันไม่รู้ว่าเริ่มชอบเขาตอนไหน แต่รู้ว่า วันนั้น ทำให้ฉันรู้ชัดเจนถึงใจของตัวเอง ว่า ชอบเขา


ฉันสับสน เพราะฉันไม่รุ้ว่า ที่แท้ เขาคิดยังไงกันแน่


จนวันนึง มีเหตุการณ์ทำให้ฉันตัดสินใจถามเขาออกไป บอกตรงๆ ว่ากลัวมาก


กลัวที่จะเสียเขาไป อย่างน้อย ฉันก็ไม่อยากเสีย "เพื่อน" คนนี้ไป ถ้าหากการบอกรัก คือการบอกลา


เมื่อเขาตอบมา ฉันแทบกรี๊ดบนรถเมล์ แทบไม่เชื่อสายตาตัวเองที่มองข้อความนั้น


แว้บนั้น ความคิดอย่างแรก คือ เราจะกลับไปเป็นอย่างเก่าไม่ได้อีก


แต่ฉันดีใจนะ และตอนนี้ ก้รู้ว่า ฉันตัดสินใจไม่ผิด ที่ถามออกไปวันนั้น


จนถึงวันนี้ เกือบสามเดือน แม้ว่าเวลาจะยังสั้น แต่ฉันมีความสุข 


ฉันไม่รุ้ว่า เขามีความสุขแค่ไหน ได้แต่หวังว่า เขาจะมีความสุข ไม่น้อยไปกว่าฉัน ^^